ACE บริษัทในกลุ่ม ปตท. จับมือ CATL มุ่งพัฒนาระบบนิเวศพลังงาน เพื่อให้ประเทศไทยเป็น Smart Green City อย่างยั่งยืน

#arunplus   #ACE   #CATL   #EV   #Battery  

บริษัท เอ ซี เอนเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด (ACE) และ Contemporary Amperex Technology Co., Ltd. (CATL) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อศึกษาและพัฒนาระบบนิเวศพลังงานไทย ณ สำนักงานใหญ่ CATL เมืองหนิงเต๋อ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ (ซ้ายบน) ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) พร้อมด้วย Mr. LiBin Tan (ขวาบน) Chief Customer Officer & Co-President of the Market System CATL นายเอกชัย ยิ้มสกุล (ซ้ายล่าง) กรรมการผู้จัดการ ACE และ Mr. See Tzu Cheng (ขวาล่าง) General Manager of APAC & Strategic Projects CATL ร่วมเป็นเกียรติในพิธี

การลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและพัฒนาระบบนิเวศพลังงานไทย การศึกษาการเปลี่ยนแปลงระบบพลังงานของประเทศไทย จากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี ACE บริษัทในเครืออรุณ พลัส ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่ดำเนินธุรกิจประกอบแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าและมีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่แข็งแกร่ง ร่วมกับ CATL ผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำสมัยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งพร้อมต่อยอดไปสู่การเป็นผู้นำและก้าวสู่ความเป็น Smart Green City แบบครบวงจรในอนาคต ผ่านความร่วมมือทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย

กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) จากนโยบายสนับสนุนการใช้งานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ส่งผลให้ปริมาณการใช้ EV มีการเติบโตอย่างเนื่อง โดยปัจจุบัน ACE และ CATL ได้มีความร่วมมือในการจัดตั้งโรงงานประกอบ EV battery pack โดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำจาก CATL และ EV Value Chain ของกลุ่ม ปตท. โดยมุ่งเน้นการผลิต ประกอบ Battery Pack ที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังมีแผนในการศึกษาการพัฒนาระบบ Green Factory เพื่อรองรับ Net Zero ในอนาคต ลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ ส่งเสริมความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การพัฒนาระบบ Green Factory โดยการนำ Renewable Energy และ ระบบ Battery มาประยุกต์ใช้ ยังสามารถต่อยอดธุรกิจไปได้หลากหลายด้าน ทั้ง PPA และ Private PPA ภายในประเทศในอนาคตอันใกล้ 

กลุ่มการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) การเติบโตอย่างรวดเร็วของยานยนต์ไฟฟ้า จำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ใช้ EV สามารถชาร์จไฟได้สะดวกและรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม สถานีชาร์จปัจจุบันยังพึ่งพาระบบโดยรวมจากการไฟฟ้า ทำให้เกิดปัญหาในหลายมิติ อาทิเช่น Grid Stability, Low Priority Power เป็นต้น โดยความร่วมมือดังกล่าวจะร่วมทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการพลังงานในสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งการติดตั้งระบบ BESS ร่วมกับ Solar System เพื่อลดภาระการใช้งานพลังงานจาก Grid เพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้าในสถานีชาร์จ โดยการจัดการกับความผันผวนของการใช้พลังงาน และลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนพลังงาน รองรับการชาร์จเร็ว (Super-Fast Charging) ได้ถึง 4C – 6C เป็นต้น

กลุ่มระบบกักเก็บพลังงานและพลังงานหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงระบบพลังงานของประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเก็บและจัดการพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และนำมาใช้ในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูง ระบบ ESS นี้จะช่วยลดการสูญเสียพลังงาน เพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้า และลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานในช่วงเวลาที่มีค่าไฟฟ้าสูง (Peak Hours) โดยการใช้พลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่แทน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพลังงานและลดภาระการใช้พลังงานจาก Grid นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือในการศึกษาการสร้าง ESS Production Line และ Battery Cell Production Line เพื่อรองรับการเติบโต สนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย

กลุ่มระบบการขนส่ง การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช้แค่รองรับรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการขนส่งที่ยั่งยืน (Sustainable Transportation) เนื่องจากการขนส่งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความมือดังกล่าวได้ร่วมศึกษาพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยี การวางแผนเมืองโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้รองรับการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น ระบบบริหารจัดการพลังงาน ระบบการชาร์จ ระบบ Renewable Energy ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

ติดตาม ARUN+ ได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/arunplusofficial/
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Email : corporate@arunplus.com