ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่โซเดียม ไออนเริ่มไล่ทันแบตเตอรี่ลิเทียม

จากการคาดการณ์โดย BloombergNEF พบว่าแบตเตอรี่ประเภทโซเดียม-ไอออน จะสามารถมาทดแทน ลิเทียม-ไอออน ได้ในทศวรรษนี้ถ้าประสบความสำเร็จในการเพิ่ม Energy Density

จากการคาดการณ์โดย BloombergNEF พบว่าแบตเตอรี่ประเภทโซเดียม-ไอออน จะสามารถมาทดแทน ลิเทียม-ไอออน ได้ในทศวรรษนี้ถ้าประสบความสำเร็จในการเพิ่ม Energy Density ทั้งนี้นักพัฒนาตั้งเป้าว่าแบตเตอรี่โซเดียม-ไอออนจะสามาถแข่งขันกับแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม ไออน ฟอสเฟส (LFP) ได้ในปี 2025

ปัจจุบันเนื่องจาก Energy Density ที่ต่ำของแบตเตอรี่ประเภทโซเดียม-ไอออน จึงทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานประเภท Storage สำหรับการใช้งานในภาคขนส่ง แบตเตอรี่ประเภทลิเทียม ไออน ฟอสเฟส (LFP) ยังคงใช้เป็นหลักและมีส่วนแบ่งตลาดถึง 40% ในปี 2022

อย่างไรก็ดีจากการที่เทคโนโลยีถึงจุดอิ่มตัวและการผลิตมีการขยายขนาดใหญ่จะทำให้แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน เป็นที่ต้องการของตลาด EVs ทั้งนี้ BloombergNEF คาดการณ์ว่าแบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน จะสามารถเริ่มทำตลาดได้จากตลาด รถยนต์ไฟฟ้าประเภทสองล้อ และสามล้อก่อน ซึ่งใช้ Energy Density ค่อนค้างต่ำ ถ้าผู้ผลิตแบตเตอรี่สามารถทำให้สำเร็จได้ตามเป้าอาจส่งผลให้มีรถยนต์ EV หลากหลายประเภทก่อนปี 2030

ราคาที่สูงของแร่ลิเทียมจะส่งผลบวก่อเทคโนโลยีอื่นๆเช่นโซเดียม-ไอออน ที่จะตอบสนองต่อความต้องการที่มากแบตเตอรี่ตลอกหลายภาคส่วน

ติดตาม ARUN+ ได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/arunplusofficial/
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Email : corporate@arunplus.com